ทำความรู้จัก แมวมงคลของไทย 17 ชนิด ตามหลักฐานที่ปรากฏในสมุดข่อยโบราณ ซึ่งในปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 4 ชนิดเท่านั้น
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้แก่เด็กเยาวชนและประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องแมวไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้จัดเสวนาเรื่อง "แมวไทย อีกสัญลักษณ์หนึ่งของชาติไทย" ซึ่งได้มีการเผยแพร่ประวัติความเป็นมาของแมวไทยโบราณพันธุ์แท้ว่า ตามหลักฐานที่ปรากฏในสมุดข่อยโบราณ กล่าวไว้ว่า แมวไทยมีทั้งหมด 23 ชนิด เป็นแมวมงคล 17 ชนิด และแมวร้ายให้โทษ 6 ชนิด
แมวมงคล 17 ชนิด มีดังนี้
1. นิลรัตน์
ลักษณะ สีดำทั้งตัว รวมถึงเล็บ ลิ้น ฟัน ดวงตา และกระดูก หางยาวตวัดได้จนถึงหัว เลี้ยงไว้แล้วเชื่อว่าจะมีความเจริญ มีทรัพย์ ปราศจากอันตราย
2. วิลาศ
ลักษณะ มีลำตัวสีดำจากคอไปตลอดท้อง จากสองหูไปจนถึงหางและขาทั้งสี่มีสีขาว ตาสีเขียว เชื่อว่าเลี้ยงไว้แล้วจะได้เป็นเจ้าคนนายคน มีเงินทองมากมาย
3. ศุภลักษณ์ หรือ ทองแดง
ลักษณะ สีขนเป็นสีทองแดงตลอดตัว มีนัยน์ตาเป็นประกาย ใครเลี้ยงจักได้ยศถา ยิ่งพ้นพรรณนาเป็นอำมาตย์มนตรี
ลักษณะ มีสีขาวเป็นพื้น มีแต้มสีดำ 9 จุด ที่คอ หัว ต้นขาหน้าและหลังทั้ง 2 ข้าง และที่ท้ายลำตัว เชื่อว่าเลี้ยงไว้แล้วจะรุ่งเรืองทางการค้าขาย
5. มาเลศ หรือ แมวโคราช หรือ สีสวาด
ลักษณะ มีขนสีดอกเลาเปรียบเสมือนกับเมฆสีเทายามฟ้ายับฝน มีนัยน์ตาหยาดเยิ้มประหนึ่งน้ำค้างย้อยต้องกลีบบัว ใครพบเร่งให้อุปถัมภ์ แมวนั้นจักนำมาซึ่งสุขสวัสดิมงคล
6. แซมเศวต
ลักษณะ มีขนสีดำแซมขาว มีขนบางและสั้น รูปร่างเพรียว มีนัยน์ตาดั่งหิ่งห้อย เลี้ยงดีมีคุณหนักหนา จงเร่งหามาเลี้ยงเทอญอย่าแคลงสงสัย
7. รัตนกัมพล
ลักษณะ ตัวขาวเหมือนหอยสังข์ แต่รอบตัวตรงส่วนอกมีลักษณะคล้ายสายคาดสีดำ ตาสีเหลือง เชื่อว่าเลี้ยงแล้วจะมียศ ผู้อื่นยำเกรง
8. วิเชียรมาศ
ลักษณะ เมื่อแรกเกิดมีขนสีขาวหมด พอโตขึ้นจะมีสีเปลี่ยนเป็นสีครีมอ่อน ๆ แต่ที่หน้า หาง เท้าทั้งสี่ หูทั้ง 2 ข้าง และที่อวัยวะเพศอีก 1 แห่ง รวม 9 แห่ง มีสีน้ำตาล (สีเข้ม) มีนัยน์ตาประกายสีฟ้าสดใส เลี้ยงไว้มีคุณค่ายิ่งลำนักหนา จักนำโภคาพิพัฒน์สมบัติเพิ่มพูน
ลักษณะ สีขนเป็นสีทองแดงตลอดตัว มีนัยน์ตาเป็นประกาย ใครเลี้ยงจักได้ยศถา ยิ่งพ้นพรรณนาเป็นอำมาตย์มนตรี
พันธฺุ์ศุภลักษณ์
4. เก้าแต้ม ลักษณะ มีสีขาวเป็นพื้น มีแต้มสีดำ 9 จุด ที่คอ หัว ต้นขาหน้าและหลังทั้ง 2 ข้าง และที่ท้ายลำตัว เชื่อว่าเลี้ยงไว้แล้วจะรุ่งเรืองทางการค้าขาย
5. มาเลศ หรือ แมวโคราช หรือ สีสวาด
ลักษณะ มีขนสีดอกเลาเปรียบเสมือนกับเมฆสีเทายามฟ้ายับฝน มีนัยน์ตาหยาดเยิ้มประหนึ่งน้ำค้างย้อยต้องกลีบบัว ใครพบเร่งให้อุปถัมภ์ แมวนั้นจักนำมาซึ่งสุขสวัสดิมงคล
6. แซมเศวต
ลักษณะ มีขนสีดำแซมขาว มีขนบางและสั้น รูปร่างเพรียว มีนัยน์ตาดั่งหิ่งห้อย เลี้ยงดีมีคุณหนักหนา จงเร่งหามาเลี้ยงเทอญอย่าแคลงสงสัย
7. รัตนกัมพล
ลักษณะ ตัวขาวเหมือนหอยสังข์ แต่รอบตัวตรงส่วนอกมีลักษณะคล้ายสายคาดสีดำ ตาสีเหลือง เชื่อว่าเลี้ยงแล้วจะมียศ ผู้อื่นยำเกรง
ลักษณะ เมื่อแรกเกิดมีขนสีขาวหมด พอโตขึ้นจะมีสีเปลี่ยนเป็นสีครีมอ่อน ๆ แต่ที่หน้า หาง เท้าทั้งสี่ หูทั้ง 2 ข้าง และที่อวัยวะเพศอีก 1 แห่ง รวม 9 แห่ง มีสีน้ำตาล (สีเข้ม) มีนัยน์ตาประกายสีฟ้าสดใส เลี้ยงไว้มีคุณค่ายิ่งลำนักหนา จักนำโภคาพิพัฒน์สมบัติเพิ่มพูน
พันธุ์วิเชียรมาศ
9. นิลจักร
ลักษณะ มีลำตัวดำสนิท ที่คอมีขนสีขาวอยู่รอบเหมือนกับปลอกคอ เชื่อว่าเลี้ยงแล้วจะมีทรัพย์มาก
10. มุลิลา
ลักษณะ ลำตัวดำ หู 2 ข้างมีสีขาว ตามีสีเหลืองเหมือนดอกเบญจมาศ เชื่อว่าแมวชนิดนี้เหมาะกับนักบวชเลี้ยง เพราะช่วยให้มีการเล่าเรียนดีสมปรารถนา
11. กรอบแว่น หรือ อานม้า
ลักษณะ มีปานลักษณะอานม้าบนหลัง เชื่อว่าแมวชนิดนี้มีราคาสูงถึงแสนตำลึงทองคำ และให้เกียรติยศแก่เจ้าของ
12. ปัดเสวตร หรือ ปัดตลอด
ลักษณะ ตัวมีสีดำเป็นพื้น ตั้งแต่จมูกไปตามแนวสันหลังถึงปลายหางมีสีขาว ตาเหลืองคล้ายกับพลอย หากเลี้ยงไว้จะมีความเจริญมากกว่าคนในสกุลเดียวกัน และได้ลาภยศ
13. กระจอก
ลักษณะ ไม่กระจอกเหมือนชื่อ ลำตัวกลมมีสีดำ รอบปากมีสีขาว ตาสีเหลือง เลี้ยงแล้วเชื่อกันว่าจะได้ที่ดินเงินทอง ไพร่ก็จะได้เป็นเจ้านายคน
14. สิงหเสพย์ หรือ โสงหเสพย์
ลักษณะ ลำตัวมีสีดำ ที่ปาก รอบคอ จมูก มีสีขาว ตาสีเหลือง ท่าทางเดินสง่าเหมือนสิงโต เลี้ยงแล้วมีสิริมงคล
15. การเวก
ลักษณะ ลำตัวสีดำ จมูกสีขาว ตาเป็นประกายสีทอง เชื่อกันว่าภายใน 7 เดือนที่ได้มาเลี้ยงจะได้ยศศักดิ์และลาภจำนวนมาก
16. จตุบท
ลักษณะ ตัวสีดำ เท้าทั้งสี่มีสีขาว ตาสีเหลืองเหมือนดอกโสน เชื่อว่าให้คุณกับคนเลี้ยง แต่ไม่เหมาะกับคนทั่วไป สมควรเลี้ยงแก่บุคคลชั้นสูงหรือราชนิกุลเท่านั้น
17. โกนจา หรือ ดำปลอด
ลักษณะ มีสีดำละเอียด นัยน์ตาสีดอกบวบแรกแย้ม หางเรียวยาว ท่าทางการเดินสง่าเหมือนสิงโต แมวนี้เลี้ยงดีมีคุณหนักหนา จงเร่งหามาเลี้ยงเทอญอย่าแคลงสงสัย
แมวร้ายให้โทษ 6 ชนิด มีดังนี้
1. ทุพพลเพศ
ลักษณะ มีขนสีขาว ดวงตาสีแดงดั่งโลหิตทาตาไว้ มีนิสัยไม่ดี ชอบลักขโมยปลาไปกินทุกค่ำคืน ใครเลี้ยงไว้จะให้โทษไม่เป็นสุข เกิดความเดือดร้อนแรงผลาญ
2. พรรณพยัคฆ์ หรือ ลายเสือ
ลักษณะ มีขนลายเหมือนเสือ ลักษณะขนเหมือนชุบด้วยเกลือกับแกลบ มีนัยน์ตาสีแดงเจือสีเปือกตม มีเสียงร้องเหมือนเสียงผีโป่งร้องอยู่ตามป่าเขา ถือว่าเป็นแมวให้โทษอีกชนิดหนึ่ง
3. ปีศาจ
ลักษณะ เป็นแมวที่กินลูกตัวเอง ออกลูกมากี่ตัวกินหมด ลักษณะขนสาก ตัวผอม หนังยาน โบราณจัดเป็นแมวร้ายอย่านำมาเลี้ยงไว้
4. หิณโทษ
ลักษณะ เป็นแมวนำมาซึ่งสิ่งเลวร้าย นำภัยพิบัติมาสู่บ้าน ใครเลี้ยงไว้จะไม่เป็นมงคล ออกลูกมามักจะมีลูกตายอยู่ในท้อง
5. กอบเพลิง
ลักษณะ เป็นแมวที่ลึกลับ ชอบซ่อนตัวหลบหลีกผู้คน พอเห็นคนมันจะเดินหรือรีบวิ่งหนี ใครเลี้ยงไว้จะมีโทษถึงตัว
6. เหน็บเสนียด
ลักษณะ มีลักษณะเหมือนค่าง ชอบเอาหางขดซ่อนไว้ใต้ก้นเสมอ มีรูปร่างพิกลพิการ อย่าเลี้ยงไว้ในบ้านจะทำให้เสียชื่อเสียงและเกียรติยศ
เนื่องจากประเทศไทยไม่ได้มีการอนุรักษ์แมวไทยอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันนี้แมวมงคลสูญพันธุ์ไปแล้วถึง 13 ชนิด หลงเหลือให้คนรุ่นหลังได้ชมเพียง 4 ชนิดเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายมากที่พันธุ์แมวไทยแท้เหลือน้อยลงทุกวัน เพราะคนไทยมองข้ามแมวไทย หันไปเลี้ยงแมวสายพันธุ์ของต่างประเทศเป็นจำนวนมาก แต่สถานการณ์แมวไทยน่าเป็นห่วงเพราะเด็กและแม้แต่ผู้สูงอายุบางคนยังไม่รู้จักแมวไทย โดยราคาค่าตัวแมวไทยปัจจุบันจะอยู่ที่ 5,000-6,000 บาท
ทั้งนี้ แมวไทยสามารถเพาะพันธุ์จำหน่ายทำเป็นอาชีพได้ เพราะตลาดต่างชาติให้ความสนใจ ตอนนี้ตลาดในญี่ปุ่นราคาซื้อ-ขายตัวหนึ่งถึง 200,000 แสนบาทเลยทีเดียว ซึ่งคุณอิสริย รัตนะวีระวงศ์ ผู้ที่เพาะพันธุ์แมวไทยสีสวาด หรือ แมวโคราช และเป็นเจ้าของ บุญมาก แมวพันธุ์สีสวาด ราคา 250,000 บาท เผยว่า ปัจจุบันตลาดต่างประเทศนิยมแมวสีสวาดและแมววิเชียรมาศ ซึ่งได้รับการสั่งซื้อทั้งจากเอสโตเนีย เยอรมนี ญี่ปุ่น ส่วนสาเหตุที่ราคาแพงนั้น เนื่องจากเลี้ยงด้วยเนื้อวัวสด เลี้ยงในห้องแอร์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ได้โครงสร้างขนาดใหญ่ พร้อมฝังไมโครชิปและทำวัคซีนให้ครบ มีใบรับรองหรือเพดดีกรี ก่อนส่งมอบให้เจ้าของที่อายุ 4 เดือน
ขอบคุณข้อมูลจาก : m-culture.go.th, breeding.dld.go.th และ snc.lib.su.ac.th